RFID tags get an intelligence upgrade
เราคิดว่าการที่สามารถจ่ายเงินในการซื้อของโดยใช้บัตรที่ทางธนาคารออกให้ หรือการเปิดการเปิดประตูโดยใช้บัตรผ่านนั้นทันสมัย แต่ RFID tags คือสิ่งที่สามารถทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้เพื่อการพัฒนาอย่างฉลาด
ในปัจจุบัน RFID tags ทำได้แค่ส่งข้อมูลที่แน่นอนกลับไปยังเครื่องอ่านเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นข้อมูล passport หรือ endangered bird (เป็นระบบกล้องรักษาความปลอดภัยที่มีมุมมองแบบนก) นักวิจัยกำลังพยายามที่จะเอาความคิดแบบมนุษย์ใส่ลงไปในรูปแบบของ computer เพื่อเป็นหนทางใหม่ๆในระบบต่างๆ
เพราะว่า RFID tags นั้นไม่มีแบทเตอรี่และยังต้องการพลังงานจากเครื่องอ่านอยู่เสมอ ความจำกัดในด้านนี้ทำให้เกิดความท้าทายในการคำนวณ แต่ก็ยังคงมีข้อดีที่เรียกว่า computational RFID tags หรือ CRFID ซึ่งถูก ทนทาน และใช้งานได้นาน
Batteries not included
“สิบปีที่ผ่านมาเราจะคิดว่านี้คือนวนิยายวิทยาศาสตร์ ในการเขียนโปรแกรมโดยปราศจากแบทเตอรี่” Kevin Fu บุคลากรที่ทำงานเกี่ยวกับ CRFID ที่ University of Massachusetts Amherst ได้กล่าวไว้
Fu และทีมงานของเขากำลังทำงานด้าน CRFID โดยใช้ฮาร์ดแวร์ของ Intel ที่เรียกว่า WISP (Wireless Identification and Sensing Platform) ใช้เพียง 16 bit ในการควบคุมและสามารถบรรจุโปรแกรมได้ถึง 32Kb
แต่เพราะว่าเทคนิคนี้ทำให้การคำนวณความจุและหน่วยความจำถูกจำกัด นักวิจัยเลยจำเป็นที่จะต้องเขียนโปรแกรมอย่างฉลาดหลักแหลมเพื่อที่จะได้ครอบคลุมในทุกๆเรื่องที่สามารถเป็นไปได้ ในข้อเท็จจริง Fu กล่าวไว้ว่า บางครั้งเขาใช้หลักการที่ถูกเขียนขึ้นในปี 1970 เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ
Tight fit
“ข้อจำกัดนี้ทำให้การค้นคว้าและวิจัยน่าสนใจ” Ari Juels กล่าวไว้ นักวิทยาการคอมพิวเตอร์ ของ RSA Laboratories ใน Cambridge, Massachusetts ที่ร่วมมือกับ Fu
กลุ่ม Massachusetts ได้ลงทุนเกี่ยว ประสิทธิภาพด้านพลังงาน เพื่อ CRFIDs ในการเก็บข้อมูล มันเป็นการท้าทายครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งที่สนับสนุนขีดจำกัดในการคำนวณของ tags ที่สามารถทำได้
เพราะว่าพวกเขามั่นใจในพลังงานภายนอก CRFIDs ต้องการสำรองข้อมูลเป็นช่วงๆ ดังนั้นพวกเขาไม่ต้องการที่จะเริ่มต้นใหม่ถ้าพลังงานดับ มันต้องการ flash memory (หน่วยความจำประเภทสารกึ่งตัวนำชนิดหนึ่ง ที่สามารถลบข้อมูลแล้วเขียนใหม่ได้ และสามารถคงข้อมูลไว้ได้แม้ไม่มีกระแสไฟฟ้าเลี้ยง) ที่ใช้กันใน memory card แต่ระบบนี้ในแต่ละ card นั้นกินพลังงานมาก จึงทำให้นักออกแบบ CRFIDs ต้องกลับไปนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง
Fu และวิทยาลัยของเข้าได้ทำการพัฒนาแผนการเพื่อหลีกเลี่ยง flash memory พวกเขาได้แสดงว่ามันมีผลด้านการอนุรักษ์พลังงานน้อยมากที่จะสำรองข้อมูลโดยการส่งข้อมูลกลับไปที่เครื่องอ่านเพื่อเก็บไว้ หรืองานที่พิเศษต้องการที่จะ encrypt เป็นอย่างแรก
เทคนิคนี้นักวิจัยอธิบายไว้ว่า “การทำ long-running computation จะสามารถทำให้เครื่องทำงานอย่างต่อเนื่องโดยปราศจากพลังงาน”
“ฉันคิดว่ามันเข้าใกล้ปัญหาที่ถูกต้องอย่างแน่นอน” Joshua Smith นักวิศวกรผู้นำด้านการพัฒนา WISP ที่ Intel Research Seattle กล่าวไว้ “มันเป็นสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจในการใช้เทคนิค RFID และในหลายๆกรณีการออกแบบระบบนั้นมันไม่ธรรมดาเอาซะเลย
Concrete data
CRFID ยังคงใหม่และมีความเสี่ยงที่จะถูก hack แต่ Juels กล่าวว่าการที่สามารถทำให้ encrypt หรือ decrypt ได้นั้น ก็ต้องทำให้ passport หรือ credit card มีความปลอดภัยมากขึ้นด้วย
การเพิ่ม sensor เข้าไปก็เป็นสิ่งที่สามารถเป็นไปได้ ทีมงานของ Fu พยายามที่จะฝัง CRFIDs ลงไปในของแข็งเพื่อที่จะรายงานความชื้น ซึ่งจะทำให้นักวิศวกรสามารถทราบถึงความผิดพลาดที่สามารถเกิดขึ้นได้รวดเร็วขึ้น